ทำไมน้ำในสระถึงขุ่น? สาเหตุ วิธีแก้ไขน้ำขุ่นในสระว่ายน้ำ

 

สาเหตุหลักที่ทำให้น้ำในสระว่ายน้ำขุ่นมีดังนี้

ทำไมน้ำในสระถึงขุ่น? สาเหตุ วิธีแก้ไขน้ำขุ่นในสระว่ายน้ำ การทำให้น้ำในสระว่ายน้ำคงความใสสะอาดและปราศจากความขุ่นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน รวมถึงรักษาสุขภาพและความปลอดภัยในการว่ายน้ำ สาเหตุหลักของน้ำขุ่นในสระว่ายน้ำและวิธีการจัดการมีรายละเอียดที่ควรคำนึงถึงดังนี้:

1. สารเคมีในน้ำขาดความสมดุล

  • ความสำคัญของค่า pH: ค่า pH ที่เหมาะสมจะช่วยให้สารเคมีที่ใช้ในสระทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ค่า pH ที่สูงเกินไป (ด่าง) อาจทำให้คลอรีนทำงานได้น้อยลงและทำให้น้ำขุ่น ในขณะที่ค่า pH ที่ต่ำเกินไป (กรด) จะทำให้น้ำกัดกร่อนพื้นผิวของสระและทำให้น้ำมีความเป็นกรดที่ส่งผลเสียต่อผิวหนังของผู้ใช้ โดยทั่วไปควรรักษาค่า pH ให้อยู่ในช่วง 7.2 – 7.8
  • ระดับคลอรีน: คลอรีนเป็นสารที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและจุลินทรีย์ในน้ำ หากระดับคลอรีนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้แบคทีเรียและเชื้อโรคเติบโตได้มากขึ้นและทำให้น้ำขุ่น ควรรักษาระดับคลอรีนให้อยู่ที่ประมาณ 1-3 ppm (parts per million) เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมีความสะอาด
  • อัลคาไลน์: ค่าอัลคาไลน์มีผลต่อความสมดุลของค่า pH และช่วยลดการเปลี่ยนแปลงค่า pH อย่างฉับพลัน ค่าที่เหมาะสมของอัลคาไลน์ในสระควรอยู่ที่ประมาณ 80-120 ppm ซึ่งจะช่วยให้ค่า pH คงที่และทำให้สารเคมีอื่นๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. การสะสมของแร่ธาตุในน้ำ

  • ผลกระทบของแคลเซียมและแมกนีเซียม: เมื่อแร่ธาตุเหล่านี้มีปริมาณสูงเกินไปในน้ำ อาจเกิดการตกตะกอนเป็นคราบสีขาวที่เห็นได้ชัดบนผิวสระ หรือทำให้น้ำขุ่นขาวซึ่งเรียกว่า “น้ำขุ่นแคลเซียม” (Calcium Cloudiness) การสะสมของแคลเซียมส่วนใหญ่มักพบในพื้นที่ที่ใช้น้ำกระด้าง การควบคุมระดับแร่ธาตุในน้ำสามารถทำได้โดยการใช้สารเคมีควบคุมแร่ธาตุ เช่น สารลดความกระด้างของน้ำ หรือการใช้สารเคมีที่ลดการสะสมของแร่ธาตุ
  • การตรวจวัดแร่ธาตุอย่างสม่ำเสมอ: การทดสอบระดับแร่ธาตุในน้ำเป็นประจำช่วยป้องกันการเกิดปัญหาคราบขาวสะสม การใช้เครื่องวัดคุณภาพน้ำที่สามารถวัดแร่ธาตุได้จะช่วยให้การดูแลรักษาทำได้อย่างแม่นยำและตรงจุด

3. ระบบกรองที่ไม่ได้มาตรฐานหรือชำรุด

  • ความสำคัญของระบบกรองที่มีประสิทธิภาพ: ระบบกรองเป็นหัวใจสำคัญในการกำจัดเศษสิ่งสกปรกและอนุภาคที่เล็ก ๆ ในสระว่ายน้ำ โดยทั่วไปมีระบบกรองหลายประเภท เช่น กรองทราย (Sand Filter), กรองผ้าพลีท (Cartridge Filter), และกรองไดอะตอมไมต์ (DE Filter) การเลือกประเภทของกรองขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะการใช้งานของสระ การล้างไส้กรองตามรอบที่กำหนดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ระบบกรองทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • การบำรุงรักษาและการตรวจสอบ: ควรตรวจสอบระบบกรองสระว่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการสะสมของเศษสิ่งสกปรกมากเกินไปที่อาจทำให้กรองอุดตันและลดประสิทธิภาพการกรอง การล้างกรองและทำความสะอาดตามคำแนะนำของผู้ผลิตจะช่วยยืดอายุการใช้งานของกรองและรักษาคุณภาพน้ำ

4. เศษสิ่งสกปรกที่สะสมในสระ

  • การทำความสะอาดผิวน้ำและใต้สระ: ใบไม้ ฝุ่นละออง และเศษสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่ตกลงในสระควรเก็บออกทันทีเพื่อป้องกันการสะสม การใช้ตาข่ายเก็บเศษหรือหุ่นยนต์ทำความสะอาดสระช่วยลดปริมาณสิ่งสกปรกในน้ำได้
  • การทำความสะอาดเป็นประจำ: การทำความสะอาดสระเป็นประจำ เช่น การดูดฝุ่นที่ก้นสระและการขัดผนังสระ จะช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกและป้องกันไม่ให้น้ำขุ่น นอกจากนี้การทำความสะอาดพื้นและผนังสระยังช่วยป้องกันการเติบโตของสาหร่ายอีกด้วย

5. การเติบโตของสาหร่ายในสระว่ายน้ำ

  • การควบคุมระดับคลอรีนและใช้สารป้องกันสาหร่าย: สาหร่ายสามารถเจริญเติบโตในน้ำได้อย่างรวดเร็วหากระดับคลอรีนไม่เพียงพอ ควรรักษาระดับคลอรีนในเกณฑ์ที่เหมาะสมและใช้สารป้องกันสาหร่าย (Algaecide) เพื่อช่วยควบคุมการเติบโตของสาหร่าย
  • การตรวจสอบสภาพน้ำเป็นประจำ: การตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำช่วยให้สามารถจับการเปลี่ยนแปลงในน้ำที่อาจก่อให้เกิดสาหร่ายได้ การใช้อุปกรณ์วัดคุณภาพน้ำเช่นเครื่องวัดค่า pH และคลอรีนช่วยให้เรารักษาคุณภาพน้ำได้อย่างถูกต้องและลดปัญหาการเกิดน้ำขุ่นจากสาหร่าย

การดูแลสระว่ายน้ำให้ใสสะอาดในระยะยาว

การป้องกันและรักษาน้ำใสในระยะยาวจำเป็นต้องมีการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอทั้งในส่วนของการปรับสมดุลของสารเคมี การบำรุงรักษาระบบกรอง และการทำความสะอาดสระ โดยแนะนำให้ทำดังนี้:

  • ตรวจวัดค่า pH และคลอรีนสม่ำเสมอ: ควรตรวจวัดค่าเหล่านี้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่มีการใช้งานมากหรือสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
  • การล้างกรองตามรอบ: การล้างกรองและบำรุงรักษาระบบกรองตามรอบที่ผู้ผลิตแนะนำจะช่วยยืดอายุการใช้งานของกรองและรักษาคุณภาพน้ำในสระ
  • การเก็บเศษสิ่งสกปรกบนผิวน้ำ: การใช้ตาข่ายเก็บเศษและหุ่นยนต์ทำความสะอาดสระช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรก
  • การควบคุมสภาพแวดล้อมรอบสระ: การจัดการสิ่งแวดล้อมรอบสระ เช่น ตัดกิ่งไม้รอบสระและดูแลพื้นที่โดยรอบให้สะอาด เพื่อลดปริมาณใบไม้และฝุ่นละอองที่อาจตกลงในสระ

Super pH Plus , ถังกรองสระว่ายน้ำ,อุปกรณ์สระว่ายน้ำ, ปั้มสระว่ายน้ำ,สระว่ายน้ำ, สร้างสระว่ายน้ำ

การทดสอบคุณภาพน้ำในสระว่ายน้ำมีความสำคัญอย่างมากในการรักษาสภาพน้ำให้สะอาด ใส และปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน

โดยมีการตรวจวัดค่าหลัก ๆ ได้แก่ pH, คลอรีน, อัลคาไลน์ และแร่ธาตุอื่น ๆ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้:

1. วิธีการตรวจวัดคุณภาพน้ำ

  • ค่า pH: ใช้เครื่องวัด pH หรือชุดทดสอบน้ำที่ใช้สารเคมี เช่น แถบกระดาษทดสอบ pH หรือชุดน้ำยาหยดวัดค่า pH ค่าที่เหมาะสมสำหรับสระว่ายน้ำควรอยู่ระหว่าง 7.2 – 7.6 โดยถ้าค่าต่ำเกินไป น้ำจะมีฤทธิ์เป็นกรด ส่งผลให้มีการระคายเคืองต่อผิวหนังและตา ในขณะเดียวกันถ้าค่าสูงเกินไป น้ำจะมีฤทธิ์เป็นด่าง ทำให้คลอรีนทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
  • ค่าคลอรีน: ใช้ชุดทดสอบคลอรีน เช่น แถบทดสอบหรือเครื่องวัดแบบดิจิทัล ค่าคลอรีนอิสระควรอยู่ที่ 1-3 ppm (parts per million) เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและสาหร่าย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดน้ำขุ่นและไม่ปลอดภัย
  • ค่าอัลคาไลน์ (Alkalinity): ใช้เครื่องวัดหรือชุดทดสอบเพื่อวัดค่าอัลคาไลน์ โดยควรอยู่ในช่วง 80-120 ppm ซึ่งจะช่วยรักษาค่า pH ให้คงที่ หากค่าอัลคาไลน์ไม่สมดุล pH จะขึ้นลงได้ง่าย ส่งผลให้การควบคุมคุณภาพน้ำทำได้ยาก
  • แร่ธาตุอื่น ๆ: การวัดระดับแคลเซียมและแมกนีเซียมมีความสำคัญในการควบคุมความกระด้างของน้ำ ระดับแคลเซียมที่เหมาะสมคือ 200-400 ppm ซึ่งช่วยป้องกันคราบหินปูนและการกัดกร่อนพื้นผิวในสระว่ายน้ำ การตรวจสอบระดับแมกนีเซียมก็สำคัญเช่นกันเพื่อความสมดุลของน้ำ

2. ความสำคัญของการตรวจวัดอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจวัดคุณภาพน้ำในสระอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สามารถควบคุมและรักษาสมดุลของสารเคมีได้ดี ซึ่งส่งผลดีต่อสระว่ายน้ำในหลายด้าน ได้แก่:

  • น้ำสะอาด ปลอดภัย: การรักษาค่า pH และคลอรีนในระดับที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรค แบคทีเรีย และสาหร่าย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้น้ำขุ่นและทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตาของผู้ใช้งาน
  • รักษาระบบกรองและอุปกรณ์: น้ำที่มีค่ากรดด่างไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการกัดกร่อนของระบบกรองและอุปกรณ์อื่น ๆ ในสระ ส่งผลให้ระบบทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและลดอายุการใช้งาน
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย: การรักษาสมดุลของสารเคมีในน้ำจะช่วยลดความจำเป็นในการเติมสารเคมีเพิ่มเติมบ่อย ๆ และลดค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดและบำรุงรักษาสระ ทำให้การดูแลรักษาสระว่ายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดเวลา

สรุป

การทดสอบคุณภาพน้ำในสระว่ายน้ำเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน รวมถึงการรักษาสภาพของอุปกรณ์ในสระ การตรวจวัดอย่างสม่ำเสมอและการรักษาสมดุลของสารเคมีจะช่วยให้น้ำในสระว่ายน้ำสะอาดและใสอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว ทำให้การดูแลรักษาสระว่ายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ถังกรองสระว่ายน้ำ,อุปกรณ์สระว่ายน้ำ,ปั้มสระว่ายน้ำ,สระว่ายน้ำ,สร้างสระว่ายน้ำ

การแก้ไขปัญหาน้ำขุ่นในสระว่ายน้ำสามารถทำได้หลายวิธี

โดยจะเน้นที่การปรับสมดุลของสารเคมีและการทำความสะอาดระบบกรอง รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อกำจัดสาหร่ายและเศษสิ่งสกปรก ดังนี้:

1. การปรับสมดุลค่า pH และคลอรีน

  • ปรับค่า pH ให้เหมาะสม: หากค่าพบว่า pH ไม่อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (7.2 – 7.6) ควรใช้สารปรับค่า pH เพิ่มหรือลดตามความจำเป็น pH ที่สมดุลจะช่วยให้คลอรีนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและลดการระคายเคืองต่อผิวหนังและตา
  • เติมคลอรีนตามความเหมาะสม: หากคลอรีนต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็น (1-3 ppm) ให้เติมคลอรีนตามปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและป้องกันการเจริญเติบโตของสาหร่าย โดยควรเว้นช่วงให้คลอรีนทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

2. การทำความสะอาดระบบกรองและเลือกใช้ระบบกรองที่เหมาะสม

  • ทำความสะอาดระบบกรองสม่ำเสมอ: การทำความสะอาดหรือการล้างระบบกรอง (Backwash) ควรทำตามรอบที่กำหนด ซึ่งช่วยให้ระบบกรองมีประสิทธิภาพในการกรองเศษสิ่งสกปรกและสารตกค้างในน้ำ
  • เลือกใช้ระบบกรองที่เหมาะสม: ระบบกรองที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับขนาดและปริมาณการใช้งานของสระ เช่น ระบบกรองทรายหรือระบบกรองแบบคาร์ทริดจ์ ซึ่งควรเลือกให้สอดคล้องกับขนาดสระ เพื่อให้กรองสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การใช้ผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการกำจัดสาหร่าย

  • การใช้สารกันสาหร่าย (Algaecide): หากพบว่ามีการเจริญเติบโตของสาหร่ายในสระ ควรใช้สารกันสาหร่ายที่เหมาะสมสำหรับสระว่ายน้ำ โดยการเติมสารกันสาหร่ายในปริมาณที่กำหนดจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของสาหร่ายในระยะยาว
  • Shock Chlorination: ในกรณีที่สาหร่ายเจริญเติบโตมากและน้ำขุ่น ควรใช้วิธีการช็อกคลอรีน (Shock Chlorination) ซึ่งเป็นการเพิ่มคลอรีนในปริมาณสูงชั่วคราวเพื่อฆ่าสาหร่ายและเชื้อโรค จากนั้นค่อยลดคลอรีนลงสู่ระดับปกติ

4. การทำความสะอาดสระและการกำจัดเศษสิ่งสกปรก

  • การกำจัดเศษสิ่งสกปรกด้วยตาข่าย: การเก็บเศษใบไม้ ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวน้ำด้วยตาข่ายจะช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกในน้ำ และป้องกันไม่ให้เศษสิ่งสกปรกตกลงไปที่พื้นสระ
  • การดูดฝุ่นที่พื้นสระ: ใช้เครื่องดูดฝุ่นสำหรับสระว่ายน้ำเพื่อล้างทำความสะอาดเศษดิน ทราย และสิ่งสกปรกที่อยู่บนพื้นสระอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยลดการขุ่นของน้ำและทำให้สระสะอาดอยู่เสมอ

การแก้ปัญหาน้ำขุ่นในสระว่ายน้ำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณภาพน้ำดีขึ้น ลดการใช้สารเคมีเพิ่มเติม และทำให้สระว่ายน้ำสะอาดใสพร้อมใช้งานตลอดเวลา

ถังกรองสระว่ายน้ำ,อุปกรณ์สระว่ายน้ำ,ปั้มสระว่ายน้ำ,สระว่ายน้ำ,สร้างสระว่ายน้ำ
Beautiful woman with phone sitting by the pool

การป้องกันน้ำขุ่นในสระว่ายน้ำในระยะยาวเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการรักษาน้ำให้ใสสะอาด ปลอดภัย และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ซึ่งสามารถทำได้โดยการบำรุงรักษาระบบกรอง การใช้สารเคมีที่เหมาะสม การจัดการสิ่งแวดล้อมรอบสระ และการปฏิบัติตามเคล็ดลับต่างๆ ดังนี้:

1. การปรับสมดุลค่า pH และคลอรีน

  • ปรับค่า pH ให้เหมาะสม: ค่าพีเอชที่เหมาะสมสำหรับสระว่ายน้ำควรอยู่ในช่วง 7.2 – 7.6 หากตรวจพบว่าค่าพีเอชไม่อยู่ในช่วงนี้ ควรใช้สารปรับค่า pH ที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มหรือลดค่า pH ตามความจำเป็น ค่า pH ที่สมดุลช่วยให้คลอรีนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และลดการระคายเคืองต่อผิวหนังและตาของผู้ใช้งาน
  • เติมคลอรีนตามความเหมาะสม: หากตรวจพบว่าค่าคลอรีนต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็น (1-3 ppm) ควรเติมคลอรีนตามปริมาณที่แนะนำ ซึ่งช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและป้องกันการเจริญเติบโตของสาหร่าย ควรเว้นช่วงให้คลอรีนทำงานอย่างเต็มที่ก่อนที่จะเพิ่มปริมาณเพิ่มเติม

2. การทำความสะอาดระบบกรองและเลือกใช้ระบบกรองที่เหมาะสม

  • ทำความสะอาดระบบกรองสม่ำเสมอ: การทำความสะอาดหรือการล้างระบบกรอง (Backwash) ควรทำตามรอบที่กำหนด เพื่อให้ระบบกรองทำงานได้มีประสิทธิภาพในการกรองเศษสิ่งสกปรกและสารตกค้างในน้ำ
  • เลือกใช้ระบบกรองที่เหมาะสม: ระบบกรองที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับขนาดและปริมาณการใช้งานของสระ เช่น ระบบกรองทรายหรือระบบกรองแบบคาร์ทริดจ์ ควรเลือกให้สอดคล้องกับขนาดสระ เพื่อให้กรองสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การใช้ผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการกำจัดสาหร่าย

  • การใช้สารกันสาหร่าย (Algaecide): หากพบว่ามีการเจริญเติบโตของสาหร่ายในสระ ควรใช้สารกันสาหร่ายที่เหมาะสมสำหรับสระว่ายน้ำ โดยการเติมสารกันสาหร่ายในปริมาณที่กำหนดจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของสาหร่ายในระยะยาว
  • Shock Chlorination: ในกรณีที่สาหร่ายเจริญเติบโตมากและน้ำขุ่น ควรใช้วิธีการช็อกคลอรีน (Shock Chlorination) ซึ่งเป็นการเพิ่มคลอรีนในปริมาณสูงชั่วคราวเพื่อฆ่าสาหร่ายและเชื้อโรค หลังจากนั้นค่อยลดคลอรีนลงสู่ระดับปกติ

4. การทำความสะอาดสระและการกำจัดเศษสิ่งสกปรก

  • การกำจัดเศษสิ่งสกปรกด้วยตาข่าย: การเก็บเศษใบไม้ ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวน้ำด้วยตาข่ายจะช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกในน้ำ และป้องกันไม่ให้เศษสิ่งสกปรกตกลงไปที่พื้นสระ
  • การดูดฝุ่นที่พื้นสระ: ใช้เครื่องดูดฝุ่นสำหรับสระว่ายน้ำเพื่อล้างทำความสะอาดเศษดิน ทราย และสิ่งสกปรกที่อยู่บนพื้นสระอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยลดการขุ่นของน้ำและทำให้สระสะอาดอยู่เสมอ

สรุป

การแก้ปัญหาน้ำขุ่นในสระว่ายน้ำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณภาพน้ำดีขึ้น ลดการใช้สารเคมีเพิ่มเติม และทำให้สระว่ายน้ำสะอาดใสพร้อมใช้งานตลอดเวลา การติดตามและบำรุงรักษาสภาพน้ำในสระว่ายน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกเจ้าของสระควรให้ความใส่ใจเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ใช้งาน

 

การเลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมีความสำคัญมากในการรักษาน้ำในสระให้ใสสะอาดและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน

การเลือกอุปกรณ์ที่ดีและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมยังช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้ ดังนี้:

1. แนวทางในการเลือกปั๊มและระบบกรองที่เหมาะสม

  • การเลือกปั๊มที่มีขนาดเหมาะสม: ปั๊มที่มีขนาดและแรงดันเหมาะสมช่วยให้การไหลเวียนของน้ำในสระมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีผลต่อการทำงานของระบบกรองและการกระจายสารเคมีต่างๆ ให้ทั่วถึง ควรเลือกปั๊มที่มีความสามารถในการไหลเวียนน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้ว ค่าการไหลเวียนของน้ำที่แนะนำคือประมาณ 1-1.5 เท่าของปริมาตรน้ำในสระต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ปั๊มแบบหลายความเร็ว (Variable Speed Pump) จะช่วยให้คุณปรับระดับการทำงานได้ตามความต้องการ ส่งผลให้ประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
  • การเลือกระบบกรองที่มีประสิทธิภาพ: ระบบกรองที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดปัญหาน้ำขุ่นและการสะสมของสิ่งสกปรกในสระ ควรพิจารณาใช้ระบบกรองที่เหมาะสมกับขนาดของสระ เช่น:
    • ระบบกรองทราย (Sand Filter): เหมาะสำหรับการกรองน้ำในสระขนาดกลางถึงใหญ่ ให้การกรองที่มีประสิทธิภาพและต้องการการบำรุงรักษาน้อย
    • กรองผ้าพลีท (Cartridge Filter): ดีสำหรับสระขนาดเล็ก ให้การกรองที่ละเอียดและสะดวกในการทำความสะอาด
    • กรองแผ่นไดอะตอมไมต์ (Diatomaceous Earth Filter – DE): ให้การกรองที่ดีที่สุด แต่ต้องการการดูแลและการบำรุงรักษามากกว่า

2. การใช้สารเคมีและเครื่องมือที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

  • เลือกสารเคมีที่ปลอดภัย: ควรเลือกสารเคมีที่มีมาตรฐานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น คลอรีนที่ปลดปล่อยอย่างช้าๆ ช่วยลดการใช้งานและไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองแก่ผู้ใช้งาน นอกจากนี้ การใช้เกลือแร่ในระบบคลอรีนเกลือ (Salt Chlorination) เป็นทางเลือกที่ดีที่ลดปริมาณสารเคมีที่ต้องใช้
  • หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเกินจำเป็น: การใช้งานสารเคมีในปริมาณที่มากเกินไปไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน แต่ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ด้วย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด และใช้เครื่องมือวัดคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าค่าต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย
  • ใช้เครื่องมือวัดคุณภาพน้ำที่แม่นยำ: เครื่องมือวัดเช่น pH meter, test strips, และเครื่องมือวัดคลอรีน ช่วยให้ผู้ดูแลสระสามารถปรับสมดุลของน้ำได้อย่างถูกต้อง โดยช่วยลดการใช้สารเคมีที่ไม่จำเป็นและช่วยให้คุณภาพน้ำคงที่

3. การเลือกใช้อุปกรณ์เสริมในการทำความสะอาด

  • หุ่นยนต์ทำความสะอาดสระ: หุ่นยนต์ทำความสะอาดเป็นนวัตกรรมที่สะดวกและมีประสิทธิภาพในการดูดสิ่งสกปรกโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้แรงงานมาก ช่วยให้ผู้ดูแลสระประหยัดเวลาในการทำความสะอาดและลดการใช้น้ำในการล้างระบบกรองบ่อยๆ
  • แปรงและเครื่องดูดฝุ่นสระ: สำหรับการทำความสะอาดเบื้องต้นในสระขนาดเล็ก การใช้แปรงขัดและเครื่องดูดฝุ่นมือเป็นทางเลือกที่ดี สามารถช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกและสาหร่ายบนผิวสระ
  • ตาข่ายเก็บเศษ: การใช้ตาข่ายในการเก็บเศษใบไม้และฝุ่นละอองจากผิวน้ำไม่เพียงแต่ช่วยให้สระดูสะอาด แต่ยังช่วยลดการสะสมของเศษสิ่งสกปรกในระบบกรองอีกด้วย

4. การบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง

  • การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์: การตรวจสอบและทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การตรวจสอบว่าปั๊มทำงานอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่, การเปลี่ยนฟิลเตอร์กรองตามที่กำหนด
  • การวางแผนการบำรุงรักษา: ควรมีแผนการบำรุงรักษาและทำความสะอาดที่ชัดเจน รวมถึงการตั้งตารางเวลาในการตรวจสอบคุณภาพน้ำและการทำความสะอาดระบบกรอง

การเลือกใช้อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไม่เพียงแต่ช่วยให้น้ำในสระใสสะอาดและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำในสระที่มีคุณภาพน้ำดีได้ตลอดเวลา

 

สินค้าแนะนำสำหรับท่านเมื่อสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์

 

 

 

 

ติดต่อสอบถามขอมูลเพิ่มเติมทางไลน์เลือกซื้อสินค้า


หากสนใจสั่งซื้อ อุปกรณ์สระว่ายน้ำ
 สามารถติดต่อ เวิลด์พูลส์ ดีเวลล็อปเมนท์ ผู้นําด้านการจําหน่าย อุปกรณ์สระว่ายน้ำทุกยี่ห้อ Emaux , Astral Pool, Hayward , Raion , Jacuzzi , Kripsol , Pool & Spa , Dolphin ด้วยความหลากหลาย Brand ของสินค้าและแต่ละประเภทของสินค้า ถังกรองสระว่ายน้ำ ปั๊มสระว่ายน้ำ เครื่องเกลือสระว่ายน้ำ ไฟใต้น้ำ Fitting อุปกรณ์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ เครื่องดูดตะกอนอัตโนมัติ และ เคมีสระว่ายน้ำ คลอรีน 90 % คลอรีน 70 % น้ำยากำจัดตะไคร่น้ำ Swimtrine Pooltrine  สารตกตะกอน ทำให้น้ำสระว่ายน้ำใส  สารพัดด้านเคมี เวิลด์พูลส์ ดีเวลล็อปเมนท์ พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

 

บริษัท เวิลด์พูลส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด