ว่าด้วยเรื่อง “ถังกรองสระว่ายน้ำ”

สวัสดีค่ะ วันนี้ World Pool ของเราจะมาแนะนำ ระบบกรองน้ำสระว่ายน้ำ ถังกรอง และการทำความสะอาด ถังและสารกรอง โดยปกติแล้วระบบกรองสระว่ายน้ำนั้น จะมีหลากหลายประเภทแล้วแต่เลือกที่จะติดตั้งเป็นประเภทไหน โดยที่ใช้ทั่วไปจะมีอยู่ 3 แบบคือ ระบบกรองด้วยทราย, ระบบกรองผ้าด้วยผงกรอง, ระบบกรองแบบกระดาษ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม โดยมักจะมองที่

  • ความมั่นใจในความสะอาด ได้มาตรฐานตามที่สระว่ายน้ำควรจะเป็น ตรวจสอบคุณภาพน้ำได้ว่าสะอาดและปลอดภัย
  • อุปกรณ์ของระบบกรองน้ำ เช่นถังกรองน้ำ สารกรองน้ำ ในส่วนนี้ต้องมองในระยะยาว เพราะการติดตั้งระบบกรองที่ดี จะช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน และจะต้องสามารถปรับเปลี่ยน ได้อย่างง่าย
  • ความคุ้มค่าของประโยชน์ที่ได้/ราคา สาเหตุนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หลาย ๆ สระว่ายน้ำ เลือกใช้ระบบกรองที่ไม่มีคุณภาพเพียงพอ เนื่องจากว่าเห็นมีราคาที่ไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับระบบแพง ๆ แต่เอาจริง ๆ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าการเปลี่ยนสารกรอง หรือซ่อมบำรุงระบบแต่ละทีนั้น มีค่าใช้จ่ายสูง เมื่อเทียบกับการเลือกของที่มีคุณภาพเพียงครั้งเดียวตั้งแต่แรก

เมื่อกล่าวถึงปัจจัยที่ใช้ในการเลือกระบบกรองน้ำของสระแล้ว จะมาพูดถึงรูปแบบของระบบกรองสระว่ายน้ำ ประเภทต่าง ๆ กันบ้าง ระบบกรองน้ำของสระว่ายน้ำนี้ ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญอันดับ 1-2 ของทั้งสระว่ายน้ำเลยก็ได้ เนื่องจากสระโดยทั่วไปแล้วใช้ระบบหมุนเวียนน้ำภายในสระ หมายความว่า น้ำที่ใช้ในการว่ายนั้นจะหมุนวนมาใช้ว่าย อยู่เรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงรอบการเปลี่ยนน้ำแต่ละครั้ง (การเปลี่ยนถ่ายน้ำทำความสะอาดสระส่วนใหญ่แล้ว จะทำ 5-10 ครั้งต่อปีเท่านั้น) ถ้าระบบกรองน้ำของสระว่ายน้ำไม่ดี หรือทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพแล้วละก็ จะทำให้น้ำในสระ ไม่สะอาด และส่งผลร้ายต่อผู้ใช้งานได้

ลักษณะของถังกรองสระว่ายน้ำแต่ละประเภท

ก่อนที่เราจะสามารถเปรียบเทียบ เครื่องกรองสระว่ายน้ำ แต่ละประเภทได้นั้น เราต้องมาทำความรู้จักกับความสามารถ และรายละเอียดของแต่ละประเภทว่ากันก่อน อันดับแรกควรต้องทำความเข้าใจถึงประสิทธิภาพการกรองกันก่อน ซึ่งก็จะสัมพันธ์กับขนาดไมครอนนั่นเอง

หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่า ไมครอน หรือบางครั้งคุณอาจเคยเห็นคำนี้ผ่าน ๆ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่า ไมครอน คืออะไร ?

ไมครอน คืออะไร ?

ถ้าพูดถึง เครื่องกรองหรือถังกรองสระว่ายน้ำแต่ละประเภทแล้ว การกรองจะสามารถกำจัดอนุภาคสิ่งสกปรกที่ปะปนอยู่ในน้ำได้ในขนาดของไมครอนที่แตกต่างกัน หากนึกภาพไม่ออกว่ามันเล็กแค่ไหน ? ให้คุณลองสังเกตจากเส้นผมของคุณดูได้ครับ

เส้นผมของมนุษย์นั้นโดยปกติจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 50 ไมครอน ยังเป็นขนาดของอนุภาคที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้อยู่ ซึ่งขนาดของอนุภาคที่เล็กสุดที่มนุษย์จะสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่านั่นคือ 40 ไมครอน นั่นหมายความว่าสิ่งปนเปื้อนที่มีขนาดเล็กกว่า 40 ไมครอนถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่มันก็ยังสามารถถูกกรองออกจากน้ำได้ ถ้าหากตัวกรองนั้นเป็นวัสดุที่สามารถกรอง อนุภาคเล็ก ๆ เหล่านั้นได้ มันก็จะไปสัมพันธ์กับประสิทธิภาพของเครื่องกรองสระว่ายน้ำแต่ละประเภทนั่นเอง

ประเภทของถังกรองสระว่ายน้ำ

แล้ว เครื่องกรองสำหรับสระว่ายน้ำ แต่ละประเภท มีความแตกต่าง รวมไปถึงข้อดี ข้อเสีย และการใช้งานกันอย่างไร วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเครื่องกรองแต่ละประเภทกันนะครับ

อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันว่า เครื่องกรองหรือถังกรองสระว่ายน้ำ โดยหลักๆ แล้วจะมีด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่
1. เครื่องกรองทราย (Sand Filter)
2. เครื่องกรองคาร์ทริดจ์ (Cartridge Filter)
3. เครื่องกรองแบบใช้ผงกรอง หรือเครื่องกรองผ้า (D.E. Filter)
ซึ่งราคาและประสิทธิภาพการกรองของเครื่องกรองสระว่ายน้ำแต่ละประเภทนั้นก็จะมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการ และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน

  1. เครื่องกรองทราย (Sand Filter)

หากคุณมีงบประมาณจำกัด และไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลบำรุงรักษา เครื่องกรองทรายถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในบรรดาเครื่องกรองสระว่ายน้ำทั้ง 3 ประเภท อีกทั้งยังเหมาะสำหรับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อีกด้วย เป็นเครื่องกรองสระว่ายน้ำ ประเภทที่ใช้ทรายเป็นสารกรอง (Media) ในการกรองสิ่งสกปรกออกจากน้ำ

ประสิทธิภาพการกรองของเครื่องกรองทราย

เครื่องกรองทรายโดยทั่วไปแล้วจะมีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรก หรืออนุภาคอยู่ที่ 30 ไมครอนขึ้นไป

* ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสารกรองที่ใช้อีกด้วย เนื่องจากถ้าหากใช้สารกรองอื่นนอกจากทราย ก็อาจจะมีคุณสมบัติของสารกรองนั้นๆเพิ่มเข้ามา และสารกรองบางชนิดนั้นยังสามารถกรองอนุภาคได้มากกว่าทรายก็ได้

  1. เครื่องกรองคาร์ทริจ (Cartridge Filter)

เครื่องกรองคาร์ทริดจ์ หรือที่ในปัจจุบันนิยมเรียกกันว่าเครื่องกรองกระดาษ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วเครื่องกรองประเภทนี้จะมีราคาที่สูง กว่าเครื่องกรองทรายเล็กน้อยก็ตาม แต่เครื่องกรองกระดาษนั้นสะดวก และง่ายต่อการใช้งานมากกว่า รวมถึงประสิทธิกาพในการกรองยังสูงกว่าด้วย แต่ถังกรองประเภทนี้ไม่เหมาะที่จะใช้กับสระว่ายน้ำที่มีขนาดใหญ่มากนัก

ประสิทธิภาพการกรองของเครื่องกรองคาร์ทริดจ์
        เครื่องกรองคาร์ทริดจ์โดยทั่วไปแล้วจะมีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรก หรืออนุภาคอยู่ที่ 20 – 30 ไมครอน แต่มีข้อดีกว่าเครื่องกรองทรายตรงที่ สะดวกและง่ายต่อการ ติดตั้งและถอดล้างมากกว่า

  1. เครื่องกรองแบบใช้ผงกรองหรือเครื่องกรองผ้า (D.E. Filter)

เครื่องกรองชนิดใช้ผงกรอง DE Filter หรือที่ในปัจจุบันรู้จักกันว่าเครื่องกรองแบบถังกรองผ้าเนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการเป็นที่อยู่ของผงกรองนั้น มีลักษณะเป็นผ้านั่นเอง ถือว่าเป็นเครื่องกรองประเภทที่สามารถกรองอนุภาคได้ที่ขนาดเล็กที่สุดจากทั้งสามประเภท แต่ก็เป็นเครื่องกรองที่มีราคาสูงมากที่สุดเช่นกัน

ประสิทธิภาพการกรองของเครื่องกรองแบบใช้ผงกรอง
        เครื่องกรองแบบใช้ผงกรองโดยทั่วไปแล้วจะมีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรก หรืออนุภาคอยู่ที่ 5 ไมครอน แต่เฉพาะในกรณีที่ใช้งานร่วมกับผงกรอง DE เท่านั้น เพราะถ้าหากไม่ใส่ผงกรองลงไปด้วย ก็จะไม่สามารถกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า เครื่องกรองสระว่ายน้ำนั่นส่วนมาก ผลิตขึ้นมาจากวัสดุอะไรบ้าง????

ในปัจจุบัน เครื่องกรองสำหรับสระว่ายน้ำส่วนมากนั้นจะผลิตโดยเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง และทนทานตอสารเคมี เนื่องจากสำในระบบสระว่ายน้ำนั้นอาจมีการใช้สารเคมีสำหรับการฆ่าเชื้อโรคในน้ำ หรืออาจรวมไปถึง วัสดุที่ใช้จำต้องคำนึงถึงการป้องกันต่อ UV หรือสภาพอากาศได้อย่างดีอีกด้วย
วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวัสดุเหล่านี้กันครับ
วัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตเครื่องกรองสระว่ายน้ำในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ อยู่ 2 ประเภท

  1. เทอร์โมพลาสติก
  2. ไฟเบอร์กลาส

แล้วทั้ง 2 อย่างนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร เราไปดูกันเลยครับ

  1. เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic)

    หรือก็คือ พลาสติกที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามอุณหภูมิ เมื่อได้รับความร้อนจะอ่อนตัว และสามารถหลอมเหลวเป็นของเหลวหนืด ๆ แต่หากอุณหภูมิลดลงจะทำให้กลับไปแข็งตัวตามเดิม
    เทอร์โมพลาสติก  เช่น PE และ PP ส่วนมากที่นิยมนำมาเป็นวัสดุในการผลิต จะเป็น PE พอลิเอทิลีน ซึ่งนิยมนำใช้มาในอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า ที่ต้องการความยืดหยุ่ นและทนต่อสภาพอากาศได้ดี อีกทั้งยังมีข้อดีในเรื่องของราคาที่สามารถจับต้องได้ ดังนั้น ไม่แปลกใจที่จะนิยมใช้พลาสติกชนิดนี้ซึ่งคุณสมบัติของเครื่องกรองที่เป็นที่โดดเด่นดังนี้

คุณสมบัติ
  – ยืดหยุ่นได้ดี มีความเหนียวมากเมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำ
– มีความทนทานต่อสารเคมี
– ทนต่อทุกสภาวะ
– เป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี
– ไม่มีกลิ่นไม่มีรส
– มีความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำจึงสามารถลอยน้ำได้

          ข้อควรระวัง
          พอลิเอทิลีนเป็นพลาสติกที่ไอน้ำซึมผ่านได้เล็กน้อย แต่อากาศสามารถผ่านเข้าออกได้ดังนั้นอาจจะต้องมีการตรวจสภาพของวัสดุที่ทำมาจากพอลิเอทิลีน สม่ำเสมอเพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำและอากาศ
การใช้พอลิเอทิลีนมาทำเป็นถังกรองน้ำในปัจจุบันนิยมใช้กันเพราะด้วยความยืดหยุ่นที่เป็นคุณสมบัติเด่น และราคาที่ไม่สูงจึงทำให้เป็นวัสดุยอดฮิตที่ทางผู้ผลิตส่วนใหญ่นิยมใช้

  2.ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass)

          หรือ ก็คือ เส้นใยแก้ว โดยปกติแล้วจะนิยมนำไปใช้เป็นวัสดุช่วยเสริมแรงให้กับเทอร์โมพลาสติก (Glass Reinforced) และยังสามารถนำไปใช้ในขึ้นรูป เป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย
นอกจากจะมีคุณสมบัติ ความแข็งแรง ทนแรงดึงได้สูงมากแล้ว เส้นใยแก้วยังมีคุณสมบัติ ด้านการเป็นฉนวนความร้อนได้ดีอีกด้วย

          คุณสมบัติ
              – มีความแข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อนสูงทนต่อแสงแดดและแสง UV
– ทนต่อแรงดึงได้สูงมาก
– มีน้ำหนักเบา ซึ่งเบากว่าเหล็กถึง 4 เท่า ทำให้ขนย้ายง่าย และไม่เกิดการหดตัว

          ข้อควรระวัง
           ไฟเบอร์กลาสผลิตขึ้นด้วยสารเคมี และวัสดุหลายชนิดซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ผิวหนังดวงตา ระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น ดังนั้นหากจะเลือกใช้วัสดุที่มาจากไฟเบอร์กลาสอาจจะต้องศึกษาแล้วทำความเข้าใจกับมันให้มากขึ้นหรืออาจจะต้องระมัดระวังในการใช้งานเพื่อความปลอดภัยนั้นเอง
ในปัจจุบันเครื่องกรองน้ำที่ผลิตจากไฟเบอร์กลาสได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับเครื่องกรองขนาดใหญ่ เนื่องจากคุณสมบัติที่ทนทานต่อทุกสภาวะและน้ำหนักที่เบาจึงทำให้ราคาสูงกว่าเครื่องกรองพอลิเอทิลีนเล็กน้อย  ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องกรองน้ำ ณ ขณะนี้มีการใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยต่างๆหรือการใช้เทคโนโลยีการผลิตและวัสดุที่ดีเพื่อทำให้ตัวถังกรองน้ำเหล่านั้นมีคุณสมบัติที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นซึ่งถังกรองน้ำทั้ง2ประเภทที่กล่าวมานั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคและข้อจำกัดของสถานที่ในการติดตั้ง