World Pools Development

คลอรีน 90% (ชนิดผง) คืออะไรการใช้งานและข้อดีที่คุณควรรู้

คลอรีน 90% (ชนิดผง) คืออะไรการใช้งานและข้อดีที่คุณควรรู้

 

 

คลอรีน 90% (ชนิดผง) คืออะไรการใช้งานและข้อดีที่คุณควรรู้ สระว่ายน้ำเป็นพื้นที่ที่ให้ความสนุกสนานและการผ่อนคลายสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูง แต่การรักษาความสะอาดของน้ำในสระว่ายน้ำเป็นสิ่งที่ท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการใช้งานสระว่ายน้ำเป็นประจำหรืออยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ คลอรีนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาความสะอาดและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรคในน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของการใช้คลอรีนในสระว่ายน้ำ

การใช้ คลอรีน ในสระว่ายน้ำมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคลอรีนเป็นสารเคมีที่ช่วยรักษาความสะอาดและความปลอดภัยของน้ำในสระ ด้วยคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย และสาหร่ายที่อาจเกิดขึ้นในน้ำ รวมถึงการลดสารอินทรีย์ที่เกิดจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง เหงื่อ หรือคราบไขมันจากร่างกายที่ลงไปในน้ำ การใช้คลอรีนอย่างเหมาะสมยังช่วยป้องกันปัญหาน้ำขุ่นหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

ต่อไปนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การใช้คลอรีนในสระว่ายน้ำมีบทบาทสำคัญ:

1. การฆ่าเชื้อโรคในน้ำ

น้ำในสระว่ายน้ำที่ไม่ได้รับการบำบัดด้วยคลอรีนอาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ง่าย ซึ่งคลอรีนสามารถทำหน้าที่เป็นสารฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพในการทำลายแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคต่าง ๆ ที่สามารถแพร่เชื้อให้กับผู้ใช้งานสระว่ายน้ำได้ เช่น แบคทีเรีย Escherichia coli (E. coli) ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในลำไส้

2. การป้องกันการเจริญเติบโตของสาหร่าย

สาหร่ายมักจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและอากาศร้อน โดยเฉพาะในสระว่ายน้ำที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การใช้คลอรีนสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของสาหร่าย ทำให้น้ำใสสะอาด และช่วยลดความเสี่ยงที่สระจะเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำสีเขียวหรือสีดำ

3. การกำจัดสิ่งสกปรกอินทรีย์

การใช้งานสระว่ายน้ำเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกอินทรีย์ต่าง ๆ เช่น เหงื่อ ฝุ่นละออง คราบน้ำมันจากผิวหนัง และสารอินทรีย์อื่น ๆ ที่ปนเปื้อนในน้ำ การใช้คลอรีนช่วยในการทำลายสารอินทรีย์เหล่านี้ โดยทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งส่งผลให้น้ำในสระสะอาดและปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์

4. การป้องกันน้ำขุ่น

คลอรีนยังช่วยรักษาความใสของน้ำโดยการกำจัดสารปนเปื้อนที่ทำให้น้ำขุ่นมัว เมื่อไม่มีคลอรีน น้ำในสระอาจเริ่มขุ่นและเปลี่ยนสี เนื่องจากแบคทีเรียและสิ่งสกปรกสะสม การเติมคลอรีนอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยให้น้ำในสระใสสะอาดและดูน่าดื่มน่าใช้

5. ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน

การว่ายน้ำในน้ำที่ไม่มีการบำบัดด้วยคลอรีนอาจทำให้ผู้ใช้งานมีความเสี่ยงที่จะได้รับการติดเชื้อหรือเกิดปัญหาผิวหนัง เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง การอักเสบของดวงตา หรือปัญหาระบบทางเดินหายใจ คลอรีนจึงมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงเหล่านี้ ทำให้การใช้งานสระว่ายน้ำปลอดภัยยิ่งขึ้น

6. การควบคุมปริมาณคลอรีนที่เหมาะสม

แม้ว่าคลอรีนจะมีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อโรค แต่การใช้คลอรีนในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน เช่น ทำให้เกิดการระคายเคืองตาและผิวหนัง ดังนั้น การควบคุมปริมาณคลอรีนให้เหมาะสมตามคำแนะนำจึงมีความสำคัญ เพื่อให้การใช้งานสระว่ายน้ำมีความปลอดภัยสูงสุด

คลอรีน 90% (ชนิดผง) คืออะไร?

คลอรีน 90% (ชนิดผง) เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งที่มีความเข้มข้นของคลอรีนสูงถึง 90% ซึ่งถูกใช้เป็นสารฆ่าเชื้อและบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำ โดยทั่วไปแล้วคลอรีนชนิดนี้อยู่ในรูปแบบผงและมีความสามารถในการละลายน้ำได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในระบบสระว่ายน้ำต่าง ๆ เนื่องจากช่วยในการควบคุมคุณภาพน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลักษณะสำคัญของคลอรีน 90% (ชนิดผง)

  1. ความเข้มข้นสูง: คลอรีนชนิดนี้มีความเข้มข้นของคลอรีนที่ 90% ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส และสาหร่าย ที่สามารถเจริญเติบโตในน้ำสระว่ายน้ำ
  2. รูปแบบผง: เนื่องจากเป็นคลอรีนในรูปผง จึงง่ายต่อการเก็บรักษาและขนส่ง การใช้งานก็สามารถทำได้สะดวก เพียงผสมคลอรีนกับน้ำก่อนเทลงในสระ
  3. การละลายน้ำที่ดี: คลอรีนชนิดผงนี้มีความสามารถในการละลายลงในน้ำได้อย่างรวดเร็วและกระจายตัวได้ดี ช่วยให้สารทำงานอย่างทั่วถึงในน้ำ

ข้อดีของการใช้คลอรีน 90% (ชนิดผง)

วิธีการใช้คลอรีน 90% (ชนิดผง)

  1. ผสมคลอรีนผงกับน้ำในถังที่สะอาด โดยควรใช้น้ำอุ่นเพื่อช่วยให้คลอรีนละลายได้ดียิ่งขึ้น
  2. เทสารละลายคลอรีนลงในสระว่ายน้ำ ควรทำในขณะที่เครื่องกรองน้ำทำงาน เพื่อช่วยให้คลอรีนกระจายทั่วทั้งสระ
  3. ตรวจสอบค่าคลอรีนในน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าคลอรีนอยู่ในระดับที่เหมาะสม (โดยปกติจะอยู่ที่ 1-3 ppm)

ความปลอดภัยในการใช้

แม้ว่าคลอรีน 90% จะมีประสิทธิภาพสูง แต่การใช้งานต้องมีความระมัดระวัง เนื่องจากสารนี้มีความเข้มข้นสูงและอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ ควรใช้ถุงมือและหน้ากากป้องกันเมื่อทำการผสมหรือเทสารลงในน้ำ

การใช้คลอรีน 90% อย่างเหมาะสมจะช่วยรักษาคุณภาพน้ำในสระให้สะอาดและปลอดภัยต่อการใช้งาน

 

ราคานี้สั่งซื้อผ่านหน้าเว็บไซต์เท่านั้น

 

 

 

ข้อดีของการใช้คลอรีน 90% (ชนิดผง) ในสระว่ายน้ำ

ข้อดีของการใช้คลอรีน 90% (ชนิดผง) ในสระว่ายน้ำ มีหลายประการที่ทำให้คลอรีนชนิดนี้เป็นทางเลือกที่นิยมในการบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำ ด้วยคุณสมบัติของคลอรีนเข้มข้นสูง จึงทำให้มีประสิทธิภาพและการใช้งานที่ง่าย สะดวก ดังนี้:

1. ความเข้มข้นสูง

คลอรีน 90% มีความเข้มข้นของคลอรีนที่สูงมาก ซึ่งหมายความว่าปริมาณเล็กน้อยก็สามารถฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดน้ำในสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปริมาณสารเคมีที่ต้องใช้และลดความถี่ในการเติมคลอรีน

2. ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสูง

คลอรีน 90% มีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคอื่น ๆ ที่อาจอยู่ในน้ำสระว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วและยาวนาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาความสะอาดและความปลอดภัยของน้ำในสระ

3. ป้องกันการเกิดสาหร่ายในน้ำ

นอกจากการฆ่าเชื้อโรคแล้ว คลอรีนยังสามารถป้องกันการเจริญเติบโตของสาหร่ายในน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยในสระว่ายน้ำ การใช้คลอรีนชนิดนี้จะช่วยให้น้ำในสระใสสะอาดอยู่เสมอ ป้องกันการเกิดตะไคร่และสาหร่ายสีเขียว

4. การใช้งานที่สะดวก

คลอรีนชนิดผงมีความสะดวกในการจัดเก็บ ขนส่ง และการใช้งาน เพียงผสมคลอรีนกับน้ำก่อนที่จะเทลงในสระ นอกจากนี้ยังง่ายต่อการควบคุมปริมาณในการใช้งาน ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้สารเคมีมากเกินไปหรือน้อยเกินไป

5. ประหยัดค่าใช้จ่าย

เนื่องจากคลอรีนชนิดนี้มีความเข้มข้นสูง ทำให้ใช้ในปริมาณน้อยลงต่อการบำบัดน้ำในสระขนาดใหญ่ ส่งผลให้การบำรุงรักษาสระว่ายน้ำในระยะยาวมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง

6. เก็บรักษาได้นาน

คลอรีน 90% (ชนิดผง) มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานและมีความเสถียรในการจัดเก็บ เมื่อเทียบกับคลอรีนในรูปแบบของเหลว ทำให้เจ้าของสระว่ายน้ำสามารถเก็บไว้ใช้ได้เป็นเวลานานโดยที่คุณภาพของคลอรีนไม่เสื่อม

7. รักษาคุณภาพน้ำ

การใช้คลอรีนในระดับที่เหมาะสมช่วยรักษาคุณภาพน้ำให้ใสสะอาด โดยสามารถป้องกันการขุ่นมัวและการมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดจากสิ่งสกปรกหรือสารอินทรีย์ในน้ำ

8. การควบคุมปริมาณคลอรีนที่แม่นยำ

การใช้คลอรีนชนิดผงทำให้สามารถควบคุมปริมาณการเติมได้ง่ายและแม่นยำกว่าคลอรีนในรูปแบบอื่น ๆ ทำให้การบำบัดน้ำสระมีประสิทธิภาพมากขึ้น


การใช้ คลอรีน 90% (ชนิดผง) ไม่เพียงแค่ช่วยให้สระว่ายน้ำสะอาดและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน แต่ยังประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย และมีความสะดวกในการใช้งาน

วิธีการใช้งานคลอรีน 90% (ชนิดผง) ที่ถูกต้อง

การใช้งาน คลอรีน 90% (ชนิดผง) ในการบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำต้องทำอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน นี่คือวิธีการใช้งานที่ถูกต้องสำหรับคลอรีนชนิดนี้:

1. เตรียมอุปกรณ์

2. คำนวณปริมาณคลอรีนที่ต้องใช้

การคำนวณปริมาณคลอรีนที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในสระและระดับคลอรีนที่ต้องการรักษา โดยปกติแล้วค่าคลอรีนในน้ำสระควรอยู่ที่ประมาณ 1-3 ppm (ส่วนในล้านส่วน)

3. วิธีการผสมคลอรีน

  1. เตรียมน้ำสะอาดในถังหรือภาชนะขนาดใหญ่ โดยควรใช้น้ำอุ่น (ถ้าเป็นไปได้) เพื่อช่วยให้คลอรีนละลายได้ดีขึ้น
  2. เทคลอรีนผงในปริมาณที่คำนวณไว้ลงในน้ำช้า ๆ และคนให้คลอรีนละลายอย่างทั่วถึง ควรทำในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศที่ดีเพื่อป้องกันการสูดดมคลอรีนผง
  3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลอรีนละลายจนหมดก่อนนำไปใช้ในสระว่ายน้ำ

4. การเติมคลอรีนลงในสระ

5. ตรวจสอบระดับคลอรีนในน้ำ

หลังจากเติมคลอรีนเสร็จแล้ว ควรทิ้งเวลาให้คลอรีนทำงานประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นจึงใช้เครื่องวัดค่าคลอรีน (Chlorine Test Kit) เพื่อตรวจสอบระดับคลอรีนในน้ำ ว่าค่าคลอรีนอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่

6. การเก็บรักษาคลอรีน

7. ข้อควรระวังในการใช้งาน

8. การใช้คลอรีนในช่วงที่มีการใช้งานสระ


สรุป การใช้ คลอรีน 90% (ชนิดผง) ในสระว่ายน้ำต้องทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำในสระสะอาดและปลอดภัยในการใช้งาน

ข้อควรระวังในการใช้คลอรีน 90% (ชนิดผง)

ข้อควรระวังในการใช้คลอรีน 90% (ชนิดผง) มีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและเพื่อให้การบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำมีประสิทธิภาพสูงสุด คลอรีนเป็นสารเคมีที่มีความเข้มข้นสูงและหากใช้อย่างไม่ระมัดระวังอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ นี่คือข้อควรระวังที่สำคัญ:

1. ป้องกันการสัมผัสกับผิวหนังและดวงตา

คลอรีน 90% (ชนิดผง) มีความเข้มข้นสูง การสัมผัสกับผิวหนังหรือดวงตาโดยตรงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง จึงควร:

2. ป้องกันการสูดดมฝุ่นคลอรีน

การสูดดมฝุ่นคลอรีนสามารถทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ เช่น การระคายเคืองจมูก ลำคอ หรือปอด หากสูดดมในปริมาณมากอาจทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพได้ ดังนั้นควรใช้งานในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี หรือใช้หน้ากากป้องกันฝุ่น

3. การผสมสารเคมี

ไม่ควรผสมคลอรีน 90% (ชนิดผง) กับสารเคมีอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดหรือสารฟอกขาว เพราะอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่เป็นอันตราย เช่น การเกิดก๊าซพิษคลอรีน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต

4. การจัดเก็บอย่างปลอดภัย

5. การใช้งานในสระว่ายน้ำ

6. การกำจัดสารตกค้าง

หากมีการรั่วไหลหรือหกของคลอรีนผง ควรทำความสะอาดอย่างระมัดระวัง โดยใช้ผ้าหรือเครื่องมือที่แห้งและไม่ใช้น้ำทันที เนื่องจากการสัมผัสกับน้ำอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีรุนแรงได้

7. การกำจัดของเสีย

ไม่ควรทิ้งคลอรีนผงลงในท่อระบายน้ำหรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือศึกษาขั้นตอนการกำจัดที่ถูกต้องเพื่อลดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม

8. การตรวจสอบระดับคลอรีนในน้ำสระ

หลังการเติมคลอรีนควรตรวจสอบระดับคลอรีนในน้ำสระอย่างสม่ำเสมอด้วยเครื่องมือวัดที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าค่าคลอรีนอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน (1-3 ppm) และป้องกันการเกิดการระคายเคืองจากการใช้คลอรีนมากเกินไป

9. การระมัดระวังในการผสม

ควรทำการผสมคลอรีน 90% (ชนิดผง) กับน้ำอย่างระมัดระวังและทำให้ละลายอย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะเทลงในสระ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาความเข้มข้นของคลอรีนในบางจุดของสระที่อาจทำให้เกิดอันตราย

10. ไม่ควรใช้มือเปล่าจับคลอรีน

คลอรีน 90% (ชนิดผง) มีความกัดกร่อน การจับโดยตรงด้วยมือเปล่าหรืออุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือปัญหาผิวหนัง ควรใช้อุปกรณ์ตวงและอุปกรณ์จับที่ทนทานต่อสารเคมี


สรุป การใช้งานคลอรีน 90% (ชนิดผง) ควรระมัดระวังทั้งในเรื่องการจัดเก็บ การผสม และการใช้งานในน้ำสระว่ายน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่าการบำบัดน้ำมีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน

ความแตกต่างระหว่างคลอรีนชนิดผงกับคลอรีนชนิดเม็ด

ความแตกต่างระหว่างคลอรีนชนิดผงกับคลอรีนชนิดเม็ด อยู่ที่ลักษณะการใช้งาน ประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำ และคุณสมบัติของทั้งสองประเภท ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป นี่คือความแตกต่างที่สำคัญระหว่างคลอรีนชนิดผงและคลอรีนชนิดเม็ด:

1. ลักษณะและรูปแบบ

  • คลอรีนชนิดผง (Chlorine Powder): เป็นคลอรีนที่มีลักษณะเป็นผงละเอียด ละลายได้อย่างรวดเร็วเมื่อละลายในน้ำ ทำให้สามารถเพิ่มระดับคลอรีนในน้ำได้อย่างรวดเร็ว
  • คลอรีนชนิดเม็ด (Chlorine Tablet): มีลักษณะเป็นเม็ดขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ การละลายของคลอรีนเม็ดจะช้ากว่าคลอรีนผง ใช้เวลาในการปล่อยคลอรีนเข้าสู่สระนานกว่า

2. การละลายในน้ำ

  • คลอรีนชนิดผง: ละลายได้รวดเร็ว ทำให้การเพิ่มคลอรีนในสระเป็นไปอย่างทันทีทันใด เหมาะสำหรับการเพิ่มระดับคลอรีนในกรณีที่ต้องการปรับค่าคลอรีนอย่างเร่งด่วน
  • คลอรีนชนิดเม็ด: ละลายช้ากว่า เหมาะสำหรับการปล่อยคลอรีนอย่างสม่ำเสมอในระยะเวลานาน จึงช่วยรักษาระดับคลอรีนในน้ำอย่างต่อเนื่อง

3. การใช้งาน

  • คลอรีนชนิดผง: เหมาะสำหรับการบำบัดน้ำที่ต้องการการปรับค่าคลอรีนอย่างรวดเร็ว เช่น หลังจากที่มีการใช้งานสระหนัก ๆ หรือน้ำขุ่น สามารถผสมในน้ำแล้วเทลงสระได้ทันทีหรืออาจผสมกับน้ำก่อนแล้วจึงเติมลงในสระ
  • คลอรีนชนิดเม็ด: นิยมใช้ในระบบที่มีอุปกรณ์อัตโนมัติหรือฟีดเดอร์ (chlorine feeder) หรือในกรณีที่ต้องการปล่อยคลอรีนอย่างต่อเนื่องในระยะเวลานาน เช่น การบำรุงรักษาสระที่ไม่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ

4. ความเข้มข้นของคลอรีน

  • คลอรีนชนิดผง: โดยทั่วไปมีความเข้มข้นสูง คลอรีนชนิดผงที่เป็นที่นิยมจะมีเปอร์เซ็นต์ของคลอรีนอยู่ที่ประมาณ 65% ถึง 90% ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์
  • คลอรีนชนิดเม็ด: คลอรีนเม็ดมักจะมีความเข้มข้นต่ำกว่าเล็กน้อย แต่สามารถปล่อยคลอรีนออกมาในระยะเวลานาน จึงช่วยรักษาระดับคลอรีนให้คงที่มากขึ้น

5. การควบคุมระดับคลอรีน

  • คลอรีนชนิดผง: ผู้ใช้งานสามารถควบคุมปริมาณการเติมคลอรีนได้ง่าย เนื่องจากการละลายเร็วและสามารถวัดปริมาณที่ใช้ได้โดยตรง แต่ต้องมีการตรวจสอบระดับคลอรีนบ่อยครั้ง เพราะคลอรีนจะลดลงเร็วตามการใช้งาน
  • คลอรีนชนิดเม็ด: ให้การควบคุมระดับคลอรีนอย่างสม่ำเสมอในระยะเวลานาน สามารถใช้ในเครื่องฟีดเดอร์เพื่อให้คลอรีนคงที่ได้ ทำให้ไม่ต้องเติมคลอรีนบ่อยครั้งเหมือนคลอรีนชนิดผง

6. ความสะดวกในการใช้งาน

  • คลอรีนชนิดผง: มีความสะดวกในการใช้งานสำหรับการบำบัดน้ำแบบเร่งด่วน แต่ต้องระวังเรื่องการเก็บรักษาและการสัมผัสโดยตรง เพราะผงคลอรีนสามารถฟุ้งกระจายได้ง่าย
  • คลอรีนชนิดเม็ด: สะดวกต่อการใช้งานในระยะยาว ไม่ต้องคอยเติมบ่อยครั้ง เหมาะสำหรับการบำรุงรักษาสระที่ต้องการความเสถียรของระดับคลอรีน

7. การเก็บรักษา

  • คลอรีนชนิดผง: ต้องเก็บในที่แห้งและห่างจากความชื้น เพราะผงคลอรีนอาจทำปฏิกิริยากับน้ำหรือความชื้นในอากาศได้ง่าย ทำให้ประสิทธิภาพลดลง
  • คลอรีนชนิดเม็ด: เก็บรักษาง่ายกว่าเนื่องจากเป็นเม็ด ไม่ฟุ้งกระจายเหมือนผงคลอรีน แต่ก็ยังต้องระมัดระวังในการเก็บรักษาเช่นเดียวกับคลอรีนชนิดผง

8. ความเหมาะสมในการใช้งาน

  • คลอรีนชนิดผง: เหมาะสำหรับการใช้งานในกรณีที่ต้องการเพิ่มระดับคลอรีนอย่างรวดเร็ว เช่น หลังจากที่มีการใช้งานสระมาก หรือสภาพน้ำไม่ดี
  • คลอรีนชนิดเม็ด: เหมาะสำหรับการบำรุงรักษาระยะยาวและการควบคุมระดับคลอรีนในสระที่ไม่มีการใช้งานบ่อย หรือต้องการปล่อยคลอรีนอย่างต่อเนื่อง

9. ราคา

โดยปกติแล้ว คลอรีนชนิดผง อาจมีราคาต่ำกว่า คลอรีนชนิดเม็ด เนื่องจากกระบวนการผลิตและการใช้งานที่ต่างกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและแหล่งที่จัดจำหน่าย


สรุป คลอรีนชนิดผงและคลอรีนชนิดเม็ดมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความต้องการของสระว่ายน้ำและวัตถุประสงค์ในการบำรุงรักษาน้ำ หากต้องการการบำบัดที่รวดเร็ว คลอรีนชนิดผงเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการการควบคุมระดับคลอรีนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว คลอรีนชนิดเม็ดจะเหมาะสมกว่า

ผลกระทบของการใช้คลอรีนต่อสิ่งแวดล้อม

แม้ว่าคลอรีนจะมีประโยชน์มากในการฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ แต่การใช้คลอรีนในปริมาณมากหรือการระบายน้ำที่มีคลอรีนออกสู่ธรรมชาติอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้

 


หากสนใจสั่งซื้อ อุปกรณ์สระว่ายน้ำ
 สามารถติดต่อ เวิลด์พูลส์ ดีเวลล็อปเมนท์ ผู้นําด้านการจําหน่าย อุปกรณ์สระว่ายน้ำทุกยี่ห้อ Emaux , Astral Pool, Hayward , Raion , Jacuzzi , Kripsol , Pool & Spa , Dolphin ด้วยความหลากหลาย Brand ของสินค้าและแต่ละประเภทของสินค้า ถังกรองสระว่ายน้ำ ปั๊มสระว่ายน้ำ เครื่องเกลือสระว่ายน้ำ ไฟใต้น้ำ Fitting อุปกรณ์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ เครื่องดูดตะกอนอัตโนมัติ และ เคมีสระว่ายน้ำ คลอรีน 90 % คลอรีน 70 % น้ำยากำจัดตะไคร่น้ำ Swimtrine Pooltrine  สารตกตะกอน ทำให้น้ำสระว่ายน้ำใส  สารพัดด้านเคมี เวิลด์พูลส์ ดีเวลล็อปเมนท์ พร้อมให้บริการและให้ปรึกษากับลูกค้าทุกท่าน

บริษัท เวิลด์พูลส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

Exit mobile version